วิธีเเก้เวลารถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้เกิดเครื่องยนต์ร้อนจัดจะทำอย่างไรดี 23 กรกฎาคม 25641 พฤศจิกายน 2021adminความรู้เรื่องรถโฟล์คลิฟท์ วิธีเเก้เวลารถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้เกิดเครื่องยนต์ร้อนจัดจะทำอย่างไรดี รถโฟล์คลิฟท์แนะนำ ทำอย่างไงดี ? หากคุณใช้งานรถโฟล์คลิฟท์อยู่ แล้วรู้สึกว่าเครื่องยนต์เกิดร้อนจัดขึ้นมา หรือร้อนมากกว่าที่ควรจะเป็น อาจเกิดความผิดปกติขึ้นได้ หากเป็นเช่นนี้ ควรทำการแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายมหาศาลตามมา หรืออาจเกิดการลุกไหม้ของรถได้เลยทีเดียว ปัจจัยในการเกิดเครื่องร้อน 1 น้ำในหม้อน้ำลดระดับลงหรือหายไปบางส่วน เป็นไปได้หลายสาเหตุ เช่น ฝาหม้อน้ำที่หมดสภาพแล้ว น้ำก็ซึมออกได้ วาล์วน้ำ หากเสียน้ำจะไม่ไหลเวียนเพื่อนำความร้อนไประบายออกที่หม้อน้ำ ปั๊มน้ำรั่ว น้ำอาจจะค่อยๆ หายไปจากระบบ 2 วิ่งแล้วดับ เครื่องดับเอง ขณะขับรถควรหมั่น สังเกตเข็มวัดความร้อน หากผิดปกติต้องหยุด อย่าให้เครื่องดับเอง จะอันตรายมาก 3 มีบางอย่างมาปิดหน้าหม้อน้ำขณะวิ่ง หากเจอถุงพลาสติก หรือเศษกระดาษในบริเวณที่ใช้งานลอยอยู่แถวๆ หน้ารถ ต้องรีบสังเกตเข็มวัดความร้อน ว่าผิดปกติหรือไม่ เพราะอาจจะไปติดอยู่ที่หน้ารถได้ รถโฟล์คลิฟท์แนะนำ Electric stacker รุ่น CDD12-970 NISSAN รุ่น SC01 TOYOTA รุ่น 7FB20 TOYOTA รุ่น 7FBR15 JUMBO รุ่น EP-2000 HYSTER รุ่น J2.00XMT TOYOTA รุ่น 7FBE20 TOYOTA รุ่น 7FBR15 Mini Walkie Pallet Truck/Li-Ion รุ่นCBD15 TOYOTA รุ่น 7FBJ35 นอกจากนี้ ยังอาจเกิดขึ้นได้จากอีกหลายสาเหตุ เช่น การที่วาล์วน้ำไม่ทำงาน โดนลูกหินจากรถใหญ่ดีดเข้าหม้อน้ำ พัดลมไม่ทำงาน ฝาหม้อน้ำเสื่อมสภาพ สปริงเสีย หรือขับใช้งานเกียร์ต่ำติดต่อกันนานๆ ดังนั้น ควรหมั่นตรวจดูอุณหภูมิความร้อนที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขได้ทันท่วงทีการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ การใช้งาน รถโฟล์คลิฟท์ นั้น เป็นการใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และไม่ค่อยได้หยุดพัก ดังนั้น จึงอาจเสื่อมสภาพหรือเกิดความชำรุดเสียหายขึ้นได้เสมอ นอกจากการตรวจเช็ค และซ่อมบำรุงรักษาในส่วนต่างๆ เครื่องยนต์ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนรถก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ ซึ่งการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ สามารถทำได้ดังนี้ 1. เปิดฝาหม้อน้ำทิ้งไว้ก่อน 2. สตาร์ทรถ แล้วสังเกตดูว่าสตาร์ทติดง่ายหรือไม่ 3. เมื่อเครื่องร้อนให้ดูว่ามีฟองอากาศออกจากฝาหม้อน้ำหรือไม่ หากมีแสดงว่าเครื่องเริ่มหลวม หรือเคยมีปัญหา 4. ดึงที่วัดน้ำมันเครื่องออกมาดูว่ามีควันขาวลอยออกมาหรือมีละลองน้ำหรือไม่ ถ้ามีก็แสดงว่าปะเก็นรั่ว 5. ฟังเสียงสายพาน เสียงลูกรอก เสียงดังผิดปกติหรือไม่ เสียงเครื่องควรจะเงียบและทำงานเรียบ ไม่มีสะดุด 6. ดูปลายท่อ มีควันขาว กลิ่นน้ำมันเหม็นไหม้ มีละอองน้ำมันออกมาด้วยหรือไม่ ถ้ามีก็แสดงว่า ภายในเครื่องมีปัญหา เมื่อรถที่กำลังใช้งานเกิดร้อนผิดปกติ ควรหยุดทำการแก้ไขตรวจสอบทันที การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ก็ช่วยให้ใช้รถได้อย่างเต็มสมรรถนะเท่านั้น และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ FacebookFacebookXTwitterLINELine